จากประสบการณ์ในการหาคนจะเห็นว่าทุกวันนี้รูปแบบและวิธีการเปิดรับสมัครงานมีความแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก จะเห็นได้ว่าช่องทางการสมัครงานมีหลากหลายมากขึ้น และที่สำคัญสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของแต่ละกลุ่มได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลงไป รูปแบบการทำงานก็เปลี่ยนไปตามหลายองค์กรมีการนำระบบเทคโนโลยีทางด้านดิจิทัลและโทคโนโลยีทางด้านเครื่องจักร เข้ามามีบทบาทและใช้ร่วมกับการทำงานมากยิ่งขึ้น ทำให้แรงงานมนุษย์นั้นถูกลดบทบาทในการทำงานลงอย่างมาก
เมื่อสถานการณ์โลกได้เปลี่ยนแปลงไปนั้น ทำให้ตลาดแรงงานกำลังประสบปัญหาการตกงานหรือว่างงานมากขึ้น เพราะหลายองค์กรได้มีการปรับเปลี่ยนและนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทดแทนการทำงานของมนุษย์ ทำให้เกิดปัญหาคนว่างงานและตกงานเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้น ทำให้คนว่างงานในตลาดแรงงานล้นตลาด และเกิดการแข่งขันแย่งอาชีพมากขึ้น แต่ใช่ว่าจะเกิดปัญหาเฉพาะคนหางานเท่านั้น หลายองค์กรก็ประสบปัญหาการหาคนงานด้วยเช่นกัน เพราะถึงแม้ว่างปริมาณคนตกจะเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนของคนเลือกงานก็มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นทำให้เกิดปัญหาสำหรับองค์กรด้วยเช่นกัน เพราะปริมาณคนสมัครงานมีน้อยลง และการปฏิเสธงานมีปริมาณที่มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
หลักการปรับทัศนคติของคนในองค์กร
– ต้องรักในสิ่งที่ทำ แน่นอนว่าการที่คุณจะสมัครงานหรือเลือกทำงานในตำแหน่งงานไหนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณจะต้องมีความรู้ความสามารถทางด้านสายอาชีพนั้น และที่สำคัญต้องมีความถนัดและชื่นชอบการทำงานในลักษณะนั้นด้วย การที่คุณได้ทำงานที่ตัวเองรักก็สามารถทำออกมาได้ดี และเกิดความรู้สึกสนุกอยากที่จะพัฒนาตนเองเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในสายงานยิ่งๆ ขึ้นไป
– มองอุปสรรค์ที่เกิดขึ้นเป็นความท้าทาย คนที่มองสิ่งต่างๆ ในแง่ลบมักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเท่าที่ควร ดังนั้นการลองปรับมุมมองและแนวทางการทำงานจะช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่นไปด้วย นอกจากนี้สิ่งสำคัญของการทำงานนั้นก็คือการที่เราเจออุปสรรค์ต่างๆ แล้ว สามารถปรับแนวคิดให้ไปในทิศทางบวก สร้างความผิดพลาดให้เกิดความท้าทายในการทำงาน
– ปรับมุมมองและทัศนคติ แน่นอนว่าแต่ละองค์กรคนทำงานมาจากหลากหลายที่ ร้อยพ่อพันแม่ทำให้ลักษณะนิสัยและแนวคิดแตกต่างกัน ดังนั้นเป็นสิ่งที่องค์กรจะต้องสร้างแนวคิดให้กับพนักงานในองค์กร อาจจะมีการจัดฝึกอบรบให้กับพนักงานทุกคน เพื่อช่วยเปลี่ยนแนวคิดให้พวกเค้ามีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันกับองค์กร ลดการเกิดช่องว่างและปัญหาต่างๆ ตามมา
– ให้ความสำคัญในสิ่งที่ทำ พนักงานแต่ละคนจะต้องให้ความสำคัญในงานที่ทำงานของแต่ละตำแหน่งแน่นอนว่าการกำหนดรูปแบบการทำงานอย่างชัดเจน และรู้ถึงความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ของตำแหน่งงานนั้นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางครั้งตัวพนักงานเองจะต้องรู้ในสิ่งที่ตัวทำ
– ตระหนักถึงความก้าวหน้า สิ่งสำคัญของการทำงานคือการที่แต่ละคนตระหนักถึงหน้าที่ในการทำงานอย่างชัดเจน ไม่ก้าวก่ายการทำงานของกันและกัน ดังนั้นเมื่อแต่ละคนรู้หน้าที่ของตนเอง การทำงานก็จะเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เมื่อพนักงานในองค์กรมีการทำงานอย่างเป็นระบบก็จะทำให้องค์กรเกิดความก้าวหน้ามากขึ้น
การสร้างแรงจูงใจเพื่อให้พนักงานในองค์กรมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาทักษะความรู้และความสามารถของตนเอง แน่นอนว่าทุกองค์กรมีความคาดหวังที่อยากให้พนักงานของพวกเค้ามีศักยภาพในการทำงานมากขึ้น เพราะถ้าพวกเค้ามีการพัฒนาความคิดและไอเดียใหม่ๆ ก็สามารถที่จะช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ได้วางเป้าหมายไว้อย่างง่ายดาย